สวัสดีครับคุณผู้ชมคุณผู้ฟังทุกท่าน
ที่ติดตามรับชมภูริฟิล์ม
ธรรมะ ๑ นาที คลิบนี้เสนอตอน
ผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน
และเพื่อประโยชน์ผู้อื่นฯ
พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า...
[๑๑๖]
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่
ณ สวนมะม่วง ของหมอชีวก
ใกล้พระนครราชคฤห์
ครั้งนั้น หมอชีวกโกมารภัจจ์
เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ถึงที่ประทับ
ถวายบังคม พระผู้มีพระภาคแล้ว
นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
ครั้นแล้วได้ทูลถาม พระผู้มีพระภาคว่า
(คำถามที่ ๑)
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
ด้วยเหตุมีประมาณเท่าไรหนอ
บุคคลชื่อว่าเป็น อุบาสก
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
ดูกรชีวก เมื่อใดแล
บุคคลถึง พระพุทธเจ้า
ถึงพระธรรม ถึงพระสงฆ์ ว่าเป็นสรณะ
ด้วยเหตุมีประมาณเท่านี้แล
ชื่อว่าเป็น อุบาสกฯ
(คำถามที่ ๒)
ช. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
ด้วยเหตุมีประมาณเท่าไร
อุบาสก ชื่อว่า เป็นผู้มีศีลฯ
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
พ. ดูกรชีวก
เมื่อใดแล อุบาสก
งดเว้นจากปาณาติบาต
งดเว้นจากอทินนาทาน
งดเว้นจากกาเมสุมิจฉาจาร
งดเว้นจากมุสาวาท
งดเว้นจากการดื่มน้ำเมา
คือ สุราและเมรัย
อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท
ด้วยเหตุมีประมาณเท่านี้แล
อุบาสกชื่อว่า เป็นผู้มีศีลฯ
(คำถามที่ ๓)
ช. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
ก็ด้วยเหตุมีประมาณเท่าไร
อุบาสก ชื่อว่า ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน
ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่นฯ
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
พ. ดูกรชีวก
เมื่อใดแล อุบาสก
ถึงพร้อมด้วยศรัทธาด้วยตนเอง
แต่ไม่ชักชวนผู้อื่นให้ถึงพร้อมด้วยศรัทธา ฯลฯ
ตนเองเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีล
แต่ไม่ชักชวนผู้อื่นให้ถึงพร้อมด้วยศีล ๑
ตนเองเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยจาคะ
แต่ไม่ชักชวนผู้อื่นให้ถึงพร้อมด้วยจาคะ ๑
ตนเองเป็นผู้ใคร่เพื่อเห็นภิกษุ
แต่ไม่ชักชวนผู้อื่นในการเห็นภิกษุ ๑
ตนเองเป็นผู้ใคร่เพื่อฟังสัทธรรม
แต่ไม่ชักชวนผู้อื่นในการฟังสัทธรรม ๑
ตนเองเป็นผู้ทรงจำธรรมที่ตนเองฟังแล้ว
แต่ไม่ชักชวนผู้อื่นเพื่อการทรงจำธรรม ๑
ตนเองเป็นผู้พิจารณาอรรถ
แห่งธรรมที่ตนฟังแล้ว
แต่ไม่ชักชวนผู้อื่น
ในการพิจารณาอรรถแห่งธรรม ๑
ตนเองเป็นผู้รู้ทั่วถึงอรรถ รู้ทั่วถึงธรรมแล้ว
ปฏิบัติธรรม สมควรแก่ธรรม
แต่ไม่ชักชวนผู้อื่น
ในการปฏิบัติธรรม สมควรแก่ธรรม
ด้วยเหตุมีประมาณเท่านี้แล
อุบาสก ชื่อว่าเป็นผู้ปฏิบัติ
เพื่อประโยชน์ตน
ไม่ปฏิบัติ เพื่อประโยชน์ผู้อื่นฯ
(คำถามที่ ๔)
ช. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
ก็ด้วยเหตุมีประมาณเท่าไร
อุบาสกชื่อว่า
เป็นผู้ปฏิบัติ เพื่อประโยชน์ตน
และเพื่อประโยชน์ผู้อื่นฯ
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
พ. ดูกรชีวก
เมื่อใดแล อุบาสก
เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศรัทธาด้วยตนเอง
และชักชวนผู้อื่นให้ถึงพร้อมด้วยศรัทธา ๑
ตนเองเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีล
และชักชวนผู้อื่นให้ถึงพร้อมด้วยศีล ๑
ตนเองเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยจาคะ
และชักชวนผู้อื่นให้ถึงพร้อมด้วยจาคะ ๑
ตนเองเป็นผู้ใคร่เพื่อเห็นภิกษุ
และชักชวนผู้อื่นในการเห็นภิกษุ ๑
ตนเองเป็นผู้ใคร่เพื่อฟังสัทธรรม
และชักชวนผู้อื่นในการฟังสัทธรรม ๑
ตนเองเป็นผู้ทรงจำธรรมที่ตนเองฟังแล้ว
และชักชวนผู้อื่นเพื่อการทรงจำธรรม ๑
ตนเองเป็นผู้พิจารณาอรรถแห่งธรรมที่ตนฟังแล้ว
และชักชวนผู้อื่น ในการพิจารณาอรรถ แห่งธรรม ๑
ตนเองรู้ทั่วถึงอรรถ รู้ทั่วถึงธรรมแล้ว
ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม
และชักชวนผู้อื่น
ในการปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ๑
ด้วยเหตุมีประมาณเท่านี้แล
อุบาสกชื่อว่า เป็นผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน
และเพื่อประโยชน์ผู้อื่นฯ
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๓
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๕
อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต
พึ่งตนพึ่งธรรม นำชีวิตออกจากทุกข์
ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่าน
ที่มีส่วนร่วมในการจัดทำคลิบนี้
และรับชมคลิบนี้ สาธุครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น