บทความ

กำลังแสดงโพสต์ที่มีป้ายกำกับ สัตว์เดรัจฉาน

สังสารวัฏนี้ หาที่สุดเบื้องต้น เบื้องปลายไม่ได้

รูปภาพ
สวัสดีครับคุณผู้ชมคุณผู้ฟังทุกท่าน ที่ติดตามรับชมภูริฟิล์ม ธรรมะ ๑ นาที คลิบนี้เสนอตอน สังสารวัฏนี้ หาที่สุดเบื้องต้น เบื้องปลายไม่ได้ พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า... ดูกรภิกษุทั้งหลาย สงสารนี้ กำหนดที่สุดเบื้องต้น เบื้องปลายไม่ได้ เมื่อเหล่าสัตว์ผู้มีอวิชชาเป็นที่กางกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องประกอบไว้ ท่องเที่ยวไปมาอยู่ ที่สุดเบื้องต้นย่อมไม่ปรากฏฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เหมือนอย่างว่า บุรุษตัดทอนหญ้า ไม้กิ่ง ไม้ใบ ไม้ในชมพูทวีปนี้ แล้วจึงรวมกันไว้ ครั้นแล้ว พึงกระทำให้เป็นมัดๆ ละ ๔ นิ้ว วางไว้ สมมติว่า นี้เป็นมารดาของเรา นี้เป็นมารดาของมารดาของเรา โดยลำดับมารดาของมารดาแห่งบุรุษนั้น ไม่พึงสิ้นสุด ส่วนว่า หญ้า ไม้กิ่ง ไม้ใบ ไม้ในชมพูทวีปนี้ พึงถึงการหมดสิ้นไป. พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๖ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๘ สังยุตตนิกาย นิทานวรรค อนมตัคคสังยุตต์ ปฐมวรรคที่ ๑ พึ่งตนพึ่งธรรม นำชีวิตออกจากทุกข์ ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่าน ที่มีส่วนร่วมในการจัดทำคลิบนี้ และรับชมคลิบนี้ สาธุครับ

คุณสมบัติของโสดาบัน ไม่ต้องไปเกิด ในนรก เดรัจฉาน เปรตวิสัย

รูปภาพ
สวัสดีครับคุณผู้ชมคุณผู้ฟังทุกท่าน ที่ติดตามรับชมภูริฟิล์ม ธรรมะ ๑ นาที คลิบนี้เสนอตอน คุณสมบัติของโสดาบัน ที่ไม่ต้องไปเกิดในนรก กำเนิดเดรัจฉาน และเปรตวิสัย พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า คุณสมบัติของโสดาบันนั้น คือ ๑. โสดาบัน จะห่างไกลจากมิฉาทิฐิทั้งปวง (คือ ความเห็นผิด ความเข้าใจผิดในแบบต่างๆ) ๒. โสดาบัน จะไม่เชื่อว่ากรรม เกิดจากผู้อื่นบันดาล ตนเองบันดาล ทั้งตนเองและผู้อื่นบันดาล และจะไม่เชื่อว่าเกิดขึ้นมาลอยๆ ๓. โสดาบัน จะห่างจากสีลลัพพะตะปรามาส ความลูบคลำในศิลพรต (ซึ่งสีลัพพตปรามาส หมายความถึง ความยึดมั่นถือมั่นอยู่ในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือศีลพรตภายนอกพระพุทธศาสนา) ๔. โสดาบัน เป็นผู้สมบูรณ์แล้วด้วยทิฐิ ๕. โสดาบัน เป็นผู้ยืนอยู่จรดประตูแห่งอมตะ ๖. โสดาบัน เป็นผู้มีธรรมอันไม่เสื่อม ๗. โสดาบัน จะไม่ไปเกิดอีกแล้ว ในอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ๘. โสดาบัน ภพของโสดาบันมี ๒ คติ คือ ไม่มนุษย์ ก็เทวดา ๙. โสดาบัน เป็นที่เที่ยงแท้ต่อนิพพาน มีการตรัสรู้พร้อมในเบื้องหน้าแน่นอน (ซึ่งพระพุทธเจ้าท่านรับประกัน) และพระพุทธเจ้าท่านตรัสอีกว่า มหาพุทธธาตุ ๔ คือ ดิน น้ำ

มนุษย์ เทวดา เปรตวิสัย สัตว์เดรัจฉาน สัตว์นรก ตายแล้วไปไหน

รูปภาพ
สวัสดีครับคุณผู้ชมคุณผู้ฟังทุกท่าน ที่ติดตามรับชมภูริฟิล์ม ธรรมะ ๑ นาที คลิบนี้เสนอตอน มนุษย์ เทวดา เปรตวิสัย สัตว์เดรัจฉาน สัตว์นรก ตายแล้วไปไหน และเคล็ดลับในการเป็นเศษดินปลายเล็บ สัตว์ตายแล้วไปไหน พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า ๑. มนุษย์ ตายแล้ว มาเกิดเป็นมนุษย์ มีน้อย (เท่าเศษดินปลายเล็บ) มาเกิดเป็นเทวดา มีน้อย (เท่าเศษดินปลายเล็บ) แต่ไปเกิดในนรก สัตว์เดรัจฉาน เปรตวิสัย มีมากกว่า (เท่าดินในปฐพี) ๒. เทวดา ตายแล้ว มาเกิดเป็นเทวดา มีน้อย (เท่าเศษดินปลายเล็บ) มาเกิดเป็นมนุษย์ มีน้อย (เท่าเศษดินปลายเล็บ) แต่ไปเกิดในนรก เป็นสัตว์เดรัจฉาน เปรตวิสัย มีมากกว่า (เท่าดินในปฐพี) ๓. เปรตวิสัย ตายแล้ว มาเกิดเป็นมนุษย์ มีน้อย มาเกิดเป็นเทวดา มีน้อย แต่ไปเกิดเป็นสัตว์นรก สัตว์เดรัจฉาน เปรตวิสัย มีมากกว่า (เท่าดินในปฐพี) ๔. สัตว์เดรัจฉาน ตายแล้ว มาเกิดเป็นมนุษย์ มีน้อย (เท่าเศษดินปลายเล็บ) มาเกิดเป็นเทวดา มีน้อย (เท่าเศษดินปลายเล็บ) แต่ไปเกิดเป็นสัตว์นรก สัตว์เดรัจฉาน เปรตวิสัย มีมากกว่า (เท่าดินในปฐพี) ๕. สัตว์นรก ตายแล้ว มาเกิดเป็นมนุษย์ มีน้อย (เท่าเศษดินปล

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ความเข้าใจผิดในเรื่องกรรม มิจฉาทิฏฐิเรื่องกรรม ๔ แบบ

ความหมายของคำว่า "สัตว์" ที่พระพุทธเจ้าท่านเรียกว่า ผู้มีอวิชชา หรือผู้หลง

เต่าตาบอด โอกาสในการเกิดเป็นมนุษย์นั้นยาก

การทำงานของจิต ที่มีรูป เวทนา สัญญา สังขาร เป็นอารมณ์

ฐานะ ๕ ประการ ที่ใครๆ ไม่อาจได้ตามปรารถนา

เจริญสมาธิ ได้ชื่อว่ากำลังโน้มเอียงไปสู่นิพพาน

พระตถาคตเกิดขึ้น แสดงธรรม เพื่อความรำงับ ดับ รู้

รักใครชอบใคร จงสงเคราะห์ด้วยการให้รู้อริยสัจ ๔

ทิ้งเสียนั่นแหละ กลับจะเป็นประโยชน์

ฤกษ์ดี มงคลดี สว่างดี รุ่งดี ขณะดี ยามดี ตามคำสอนพระพุทธเจ้า