บทความ

กำลังแสดงโพสต์ที่มีป้ายกำกับ ความสุข

สังสารวัฏนี้ หาที่สุดเบื้องต้น เบื้องปลายไม่ได้

รูปภาพ
สวัสดีครับคุณผู้ชมคุณผู้ฟังทุกท่าน ที่ติดตามรับชมภูริฟิล์ม ธรรมะ ๑ นาที คลิบนี้เสนอตอน สังสารวัฏนี้ หาที่สุดเบื้องต้น เบื้องปลายไม่ได้ พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า... ดูกรภิกษุทั้งหลาย สงสารนี้ กำหนดที่สุดเบื้องต้น เบื้องปลายไม่ได้ เมื่อเหล่าสัตว์ผู้มีอวิชชาเป็นที่กางกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องประกอบไว้ ท่องเที่ยวไปมาอยู่ ที่สุดเบื้องต้นย่อมไม่ปรากฏฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เหมือนอย่างว่า บุรุษตัดทอนหญ้า ไม้กิ่ง ไม้ใบ ไม้ในชมพูทวีปนี้ แล้วจึงรวมกันไว้ ครั้นแล้ว พึงกระทำให้เป็นมัดๆ ละ ๔ นิ้ว วางไว้ สมมติว่า นี้เป็นมารดาของเรา นี้เป็นมารดาของมารดาของเรา โดยลำดับมารดาของมารดาแห่งบุรุษนั้น ไม่พึงสิ้นสุด ส่วนว่า หญ้า ไม้กิ่ง ไม้ใบ ไม้ในชมพูทวีปนี้ พึงถึงการหมดสิ้นไป. พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๖ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๘ สังยุตตนิกาย นิทานวรรค อนมตัคคสังยุตต์ ปฐมวรรคที่ ๑ พึ่งตนพึ่งธรรม นำชีวิตออกจากทุกข์ ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่าน ที่มีส่วนร่วมในการจัดทำคลิบนี้ และรับชมคลิบนี้ สาธุครับ

ความเกลียดเกิดจากความรัก ว่าด้วยความรัก ๔ แบบ

รูปภาพ
สวัสดีครับคุณผู้ชมคุณผู้ฟังทุกท่าน ที่ติดตามรับชมภูริฟิล์ม ธรรมะ ๑ นาที คลิบนี้เสนอตอน เรื่องความรัก ๔ แบบ ครับ พระพุทธเจ้าท่านได้ตรัส ในเรื่องความรักเอาไว้ ๔ แบบ ซึ่งโดยย่อแล้ว มีใจความว่า... ๑. ความรักเกิดจากความรัก เรารักใคร แล้วมีบุคคลอื่น มากระทำต่อบุคคลนั้น ด้วยความรัก... เราจะรักบุคคลนั้นด้วย ๒. ความเกลียดเกิดจากความรัก เรารักใคร แล้วมีบุคคลอื่น มาแสดงความเกลียดชังต่อบุคคลนั้น... เราจะเกลียดบุคคลนั้น ๓. ความรักเกิดจากความเกลียด เราเกลียดใคร แล้วมีบุคคลอื่น มาแสดงความเกลียดชังต่อบุคคลนั้น.. เราจะรักบุคคลนั้น ๔. ความเกลียดเกิดจากความเกลียด เราเกลียดใคร แล้วมีบุคคลอื่น มาแสดงความรักต่อบุคคลนั้น.. เราจะเกลียดบุคคลนั้น พึ่งตนพึ่งธรรม นำชีวิตออกจากทุกข์ ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่าน ที่มีส่วนร่วมในการจัดทำคลิบนี้ และรับชมคลิบนี้ สาธุครับ

สุข ทุกข์ เกิดจากผัสสะ องค์ประกอบของผัสสะ มี ๓ สิ่งเสมอ

รูปภาพ
สวัสดีครับคุณผู้ชมคุณผู้ฟังทุกท่าน ที่ติดตามรับชมภูริฟิล์ม ธรรมะ ๑ นาที คลิบนี้เสนอตอน สุข ทุกข์ เกิดจากสัมผัสหรือผัสสะ ซึ่งองค์ประกอบของผัสสะ ก็มี ๓ สิ่งเสมอ พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า ธรรมอันเป็นเหตุ ที่ทำให้เกิดเวทนา หรือองค์ประกอบของผัสสะ มี ๓ สิ่งเสมอ คือ สัมผัส หรือ ผัสสะนั้น มีหกอย่าง คือ ๑. จักขุสัมผัส หมายถึง ความกระทบทางตา คือ ตา + รูป + จักขุวิญญาณ ๒. โสตสัมผัส หมายถึง ความกระทบทางหู คือ หู + เสียง + โสตวิญญาณ ๓. ฆานสัมผัส หมายถึง ความกระทบทางจมูก คือ จมูก + กลิ่น + ฆานวิญญาณ ๔. ชิวหาสัมผัส หมายถึง ความกระทบทางลิ้น คือ ลิ้น + รส + ชิวหาวิญญาณ ๕. กายสัมผัส หมายถึง ความกระทบทางกาย คือ กาย + โผฏฐัพพะ (เช่น ร้อน เย็น อ่อน แข็ง) + กายวิญญาณ ๖. มโนสัมผัส หมายถึง ความกระทบทางใจ คือ ใจ + ธรรมารมณ์ (คือ สิ่งที่ใจนึกคิด) + มโนวิญญาณ ครับ กลับมาพบกับธรรมะ ๑ นาที ได้ใหม่ในคลิบหน้า สำหรับคลิบนี้อนุโมทนาบุญครับ

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ความเข้าใจผิดในเรื่องกรรม มิจฉาทิฏฐิเรื่องกรรม ๔ แบบ

ความหมายของคำว่า "สัตว์" ที่พระพุทธเจ้าท่านเรียกว่า ผู้มีอวิชชา หรือผู้หลง

เต่าตาบอด โอกาสในการเกิดเป็นมนุษย์นั้นยาก

การทำงานของจิต ที่มีรูป เวทนา สัญญา สังขาร เป็นอารมณ์

ฐานะ ๕ ประการ ที่ใครๆ ไม่อาจได้ตามปรารถนา

เจริญสมาธิ ได้ชื่อว่ากำลังโน้มเอียงไปสู่นิพพาน

พระตถาคตเกิดขึ้น แสดงธรรม เพื่อความรำงับ ดับ รู้

รักใครชอบใคร จงสงเคราะห์ด้วยการให้รู้อริยสัจ ๔

ทิ้งเสียนั่นแหละ กลับจะเป็นประโยชน์

ฤกษ์ดี มงคลดี สว่างดี รุ่งดี ขณะดี ยามดี ตามคำสอนพระพุทธเจ้า